Wednesday, February 6, 2013

มะม่วงต้านผลไม้ต้านโรค

มะม่วงอร่อย!..ต้านโรค

         

คนส่วนใหญ่ยอมรับแล้วว่า “มะม่วง” คือ ผลไม้ยอดนิยม
เพราะนอกจากรับประทานได้อร่อยทั้งผลสุกและผลดิบแล้ว ยังช่วยในการต้านโรคร้ายๆ อาทิ
โรคมะเร็ง โรคหัวใจ พิษในลำไส้ นิ่วในไต โรคโลหิตจาง โรคคอตีบ โรคไขข้ออักเสบ
ซึ่งสามารถบรรเทาและป้องกันได้ด้วยการกินมะม่วงเพียงลูกเดียว

          ประเทศไทยกับมะม่วง
การปลูกมะม่วงทั่วประเทศไทยมีมากมายไม่ว่าจะไปที่ไหนก็สามารถพบเห็นและหารับประทานได้ไม่ยาก
จนสามารถส่งออกต่างประเทศได้ถึงปีละ 30% ของการส่งออกผลไม้ทั้งหมด
นอกเหนือจากการส่งออกแล้ว ยังแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ
ส่วนใหญ่นิยมนำมาแปรรูปเป็นมะม่วงดอง
ที่มีการผลิตอย่างแพร่หลายในโรงงานผักผลไม้ดองทั้งขนาดเล็กและขนาดกลางในกรุงเทพมหานครและ
ต่างจังหวัด ด้วยพื้นความรู้ที่ถ่ายทอดกันมาไม่มีหลักเกณฑ์ทางวิชาการที่แน่นอน
ทำให้มีการปฏิบัติกันอย่าง
ไม่ถูกสุขลักษณะและมีการใช้สารเจือปนในปริมาณและชนิดที่ไม่เหมาะสม
เพียงเพื่อทำให้มะม่วงดองมีลักษณะ ที่ผู้บริโภคต้องการและมีอายุการเก็บนาน
โดยไม่ได้คำนึงถึงความเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค
เจ็บไข้ได้ป่วย..โรคร้าย..มะม่วงช่วยได้
โดยเอนไซม์ที่อยู่ในมะม่วงอย่าง
magneferin, katechol
oxidase และ lactase มีคุณสมบัติในการย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์
ล้างพิษในลำไส้ และสามารถต่อสู้กับเชื้อโรค ต้นเหตุของการเจ็บป่วย
กรดคาร์บอลิกเป็นอีกหนึ่งของสารอาหารที่ทำหน้าที่รักษาและสกัดกั้นเชื้อมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ
สาร Mangiferin จากใบอ่อนของมะม่วง
สามารถรักษาอาการอักเสบ ต้านแบคทีเรีย และป้องกันคราบแบคทีเรียในฟันได้
นอกจากนี้สาร Mangiferin ยังมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อไวรัส
ที่เกิดบนผิวหนัง โดยการนำมาประยุกต์ใช้ในรูปแบบของขี้ผึ้ง
  สรรพคุณทางยา ของมะม่วง ในทางแพทย์แผนไทย

 ผลสดแก่ รับประทานแก้คลื่นไส้อาเจียน วิงเวียน
กระหายน้ำ
 ผลสุก
หลังรับประทานแล้วล้างเมล็ดตากแห้ง ต้มเอาน้ำดื่ม หรือบด เป็นผง
รับประทานแก้ท้องอืดแน่น ขับพยาธิ
 ใบสด 15–30 กรัม ต้มเอาน้ำดื่ม
แก้ลำไส้อักเสบเรื้อรัง ท้องอืดแน่น เอาน้ำต้มล้างบาดแผลภายนอกได้
 เปลือกต้น ต้มเอาน้ำดื่ม
แก้ไข้ตัวร้อน
 เปลือกผลดิบ
คั่วรับประทานร่วมกับน้ำตาล แก้อาการปวดเมื่อย เมื่อมีประจำเดือน แก้ปวดประจำเดือน
 องค์กรระดับโลกยอมรับ “มะม่วง” ในฐานะอาหารที่มีสรรพคุณเป็นยา
จากคำแนะนำของ WHO หรือ
องค์การอนามัยโลก ระบุว่ามะม่วงสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคบิดและโรคหัดได้
เพราะในมะม่วงมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับแครอท โดยมีแครอทีนและวิตามินซีสูง
ซึ่งทำหน้าที่ในการดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหารและป้องกันภาวะการเกิดโลหิตจางในกลุ่มคนที่กินอาหารมังสวิรัติ
นอกจากนี้มะม่วงยังมีแคลเซียมสูงจึงสามารถรักษาอาการเลือดตกในได้
 อินเดีย ใช้ประโยชน์หลากหลายของ “มะม่วง”
ที่ประเทศอินเดียใช้มะม่วงเป็นตัวสร้างเม็ดเลือด
โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์และมีประจำเดือน
ด้วยการนำใบมะม่วงตากแห้งมาบดเป็นผง ผสมกับน้ำ 1 แก้ว ดื่มก่อนนอนทุกวัน มีคุณสมบัติรักษาก้อนนิ่วในไตได้
จะทำให้ก้อนเนื้อค่อยๆ ลดขนาดลง หากเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ
แก้ด้วยการต้มและสกัดเปลือกมะม่วง
ช่วยรักษาอาการติดเชื้อในเยื่อบุกระเพาะอาหารให้ทุเลาลง
ประโยชน์จากเม็ดมะม่วงตากแห้งกลายเป็นแปรงสีฟันอย่างดี
เมื่อนำมาแปรงแล้วจะทำให้เหงือกแข็งแรงและช่วยลดกลิ่นปากได้
         นอกจากเนื้ออร่อย..ส่วนอื่นก็มีประโยชน์
เปลือกมะม่วงยังมีสาร mangiferine
ที่ทำหน้าที่เป็นยาบำรุงผิว ห้ามเลือด แผลพุพอง โรคไขข้ออักเสบ โรคคอตีบ
และอาการท้องเสีย โดยการใช้ใบมะม่วงตากแห้งแล้วนำมาบดเป็นผง
ผสมกับน้ำครั้งละครี่งช้อนชา ดื่มวันละ 2-3 ครั้งจะลดอาการท้องเสียได้
เนื่องจากในมะม่วงมีวิตามินเอสูง ซึ่งวิตามินเอมีประโยชน์บำรุงสายตาช่วยในการมองเห็น
เด็กและสตรีมีครรภ์ควรกินมะม่วงเป็นประจำ
เพราะวิตามินเอมีส่วนช่วยในการบำรุงรกและทารกในครรภ์
อีกทั้งยังลดอัตราการแท้งลูกได้
แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าผลไม้พื้นบ้านที่มีปลูกกันทั่วไปและบริเวณบ้านแทบทุกครัวเรือนที่สามารถกินได้ทั้งผลสุกและผลดิบอย่างมะม่วงจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมหาศาล
ทั้งอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ โปรตีน ไขมัน แครอรี่ เกลือแร่
ซึ่งสารอาหารต่างๆเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง
คงขึ้นอยู่กับว่าเราจะนำคุณค่าจากส่วนใดมาใช้
และในฐานะคนไทยที่ผูกพันกับมะม่วงคงช่วยกันรักษาสายพันธุ์ที่มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ให้คงอยู่ไปชั่วลูกชั่วหลานได้ใช้คุณค่ามหาศาลจากมะม่วงด้วย

ชื่อมะม่วงหรือนี่

ช่วง นี้มีมะม่วงหลากหลายพันธุ์ให้เลือกทานได้ตามสะดวก ราคาย่อมเยา ทั้งอร่อยหวานมันและเปรี้ยวจี๊ด ... ทำให้นึกถึงกลอนที่เคยได้รับจากท่าน พระครูสุธรรมนาถ เจ้าอาวาส วัดปลักไม้ลาย ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน

 ท่านพระ ครูสุธรรมนาถ ครูภูมิปัญญาไทย รุ่นที่ 1 ด้านการแพทย์แผนไทย ซึ่งนอกจากจะมีความรู้ด้านสมุนไพรไทยอย่างดีแล้ว ท่านยังได้อนุรักษ์พืชพันธุ์ชนิดต่าง ๆ  ทั้งไม้หายาก ไม้ยืนต้น พืชสมุนไพร ท่านมีตำรายาโบราณ ชื่อพันธุ์ไม้โบราณ และชื่อมะม่วงโบราณ ซึ่งเมื่อครั้งได้รับกลอนนี้มานั้น คนไม่มีรากเกือบไม่เชื่อว่าเป็นชื่อมะม่วง ท่านเล่าว่าปัจจุบันมะม่วงโบราณบางชนิดได้สูญพันธุ์ไปแล้ว...


ชื่อมะม่วงนี้ผูกไว้เป็นกลอน ที่เป็น ตัวหนังสือสีม่วง เป็นชื่อมะม่วงค่ะ ไม่แน่ใจว่ามีการพิมพ์ผิดตกบ้างหรือเปล่า ... ลองดูนะคะ

Dsc03350

        ขอบคุณภาพมะม่วง จาก ครูมิม ค่ะ


พันธุ์มะม่วง


      จักกล่าวพันธุ์มะม่วง                ท่านทั้งปวงจงรู้ความ
มะม่วงเมืองสยาม                         จะนับนามอเนกนัก
จะจักที่จำได้                              พอคนไทยแจ้งประจักษ์
มีหลากโดยเลิศลักษณ์                  ประเภทพรรคอัมพาผล

      พิมเสน มีดาษดื่น                 เป็นภาคพื้นทุกตำบล
รู้จักแทบทุกคน                           ยังประดนพิมเสนมัน
หมอนทอง อกร่องรส                  หวานปรากฏรสสวรรค์
แมวเซามีสองพรรณ                    แมวเซาขาว แมวเซาดำ

      พรวนขอ อีกพรวนควาย        แก้ว แก้วกลายมีประจำ
ควันเทียนแลทองคำ                   มะลิอ่อง ทองปลายแขน
น้ำตาลปากกระบอก                   ขานนามออกทุกดินแดน
มะม่วงนายขุนแผน                       ปลูกเมื่อทับกลับคืนมา

      การเกด อีกไข่ไก่                 ทุกเรียนใหญ่สังขยา
ลิงโลดมะลิลา                            แก้วลืมรังหนักลางวัน
กระสวยรสสนิท                          อินทรชิตทศกรรฐ์
แขนอ่อนอีกนวลจันทร์                 น้ำตาลจีนเทพรำจวน

      ไข่เหี้ยไข่นกกระสา              กระล่อนป่า กระล่อนสวน
อีกสาวละห้อยหวน                      สาวสะกิดมารดาดู
มะม่วงเทพรำลึก                         แขกขายตึก อีกคราบหมู
กะละแม มีช่อชู                           หนึ่งชื่อว่าชาละวัน

      ม่วงพราหมณ์ขายเมียนี้         ดูท่วงทีรสขยัน
เมียรักดังชีวัน                              ยังสู้ขายจ่ายอัมพา
ม่วงสาวกระทืบหอ                       นี้ก็ส่อรสโอชา
สาวอยากจะโภชา                        จนโกรธากระทืบเรือน

      มะม่วงพิมเสนสวรรค์             ชื่อทั้งนั้นไม่มีเหมือน
ล่วงชั้นตะวันเดือน                        ถึงสวรรค์ชั้นวิมาน
มะม่วงชื่อรำพึง                           คนคะนึงด้วยรสหวาน
ม่วงเศียรคชสาร                         อีกม่วงบ้าน มะม่วงเนย

      กระแตลืมรัง เรียก                 โดยสำเหนียกตามเคย
ค้างคาวลืมลูก เลย                      หลงกินเพลินเนิ่นนานวัน
ทองขาว ทองดำ ดู                     ขึ้นเป็นคู่แข่งเคียงกัน
แก้วขาว แก้วดำ ปัน                    เป็นระยะคละกันไป

      สุวรรณหงส์เห็น                   แต่เขาเล่นละคอนไทย
เป็นม่วงเสียเมื่อไร                        อยากใคร่รู้ดูหงส์ทอง
โสนน้อยผะอบนาก                     เจ้าเงาะหลากเพื่อนทั้งผอง
กระบุ่ม กระเบาปอง                    เป็นเหมือนเงาะเยาะรจนา

      มะม่วงชื่อการเวก                  นามนกเอกในเวหา
หอยแครง แลแตงกวา                 หัวกิ้งก่า เหนียงนกกระทุง
คิ้วนาง ดูน่ากิน                           เทพสินเหมือนชื่อกรุง
แลเห็นเป็นหมู่มุง                         ม่วงสาวน้อยเยี่ยมห้องหวน

      หัวโตต้นต่ำเตี้ย                     ผัวตีเมีย ร้องไห้ครวญ
สาวน้อยสีน้ำนวล                       สาวรัญจวนสาวสวรรค์
มะม่วงผัวพรากเมีย                     คิดน่าเสียใจครันครัน
แก้วพราก แม่จากกัน                   รสสำคัญเห็นรุนแรง

      สาริกาลืมรังอยู่                    วัดวังคู่กับแก้มแดง
ม่วงกระกระแอมแฝง                     มะม่วงแฟบ แอบพุดไทย
สาวตบอุรา ร่ำ                            ด้วยระกำจะจำไกล
จากม่วงของชอบใจ                      ตบอุราน่าสงสาร

      มะตูม อีกตับเป็ด                  หวานมันเด็ดดุจน้ำตาล
อ้ายฮวบใหญ่ ใครไม่ปาน              สับสำปั้น น้ำตาลทราย
มะม่วงเขียวสะอาด                      กำเนิดชาติพิมเสนกลาย
มะม่วงกระจิบลาย                       อีกม่วงล่าหมาไม่แล

      ม่วงสาวกระทืบยอด              เดิมนางรอด บุตรตาแห
เดินไปไม่ทันแล                          เหยียบม่วงเล็กเด็กว่าขาน
ม่วงนั้นครั้นใหญ่มา                       ดกระย้าใครจะปาน
จึงตั้งนามขนาน                           กระทืบยอดรอดบาทา

      มะม่วงกำมะลอ                     สาเก ก่อเป็นสมญา
เทพรส รสโอชา                          อัมพาดื่นพ้นดินดอน
เหลือจะร่ำไห้สุด                          ชื่อสมมตินามกร
นักเรียนพึ่งแรกสอน                      อ่านกลอนเล่นเป็นสำราญ.


                        ของฝากจากพระครูสุธรรมนาถ 
       วัดปลักไม้ลาย จังหวัดนครปฐม


ทานมะม่วงกันให้อร่อยนะคะ.....
                            (^___^)

นมัสการขอบพระคุณท่านพระครูสุธรรมนาถ
ขอบคุณภาพประกอบจาก ครูมิม
ขอบคุณ คุณกวิน ที่ทำให้เขียนบันทึกนี้