Wednesday, February 6, 2013

มะม่วงต้านผลไม้ต้านโรค

มะม่วงอร่อย!..ต้านโรค

         

คนส่วนใหญ่ยอมรับแล้วว่า “มะม่วง” คือ ผลไม้ยอดนิยม
เพราะนอกจากรับประทานได้อร่อยทั้งผลสุกและผลดิบแล้ว ยังช่วยในการต้านโรคร้ายๆ อาทิ
โรคมะเร็ง โรคหัวใจ พิษในลำไส้ นิ่วในไต โรคโลหิตจาง โรคคอตีบ โรคไขข้ออักเสบ
ซึ่งสามารถบรรเทาและป้องกันได้ด้วยการกินมะม่วงเพียงลูกเดียว

          ประเทศไทยกับมะม่วง
การปลูกมะม่วงทั่วประเทศไทยมีมากมายไม่ว่าจะไปที่ไหนก็สามารถพบเห็นและหารับประทานได้ไม่ยาก
จนสามารถส่งออกต่างประเทศได้ถึงปีละ 30% ของการส่งออกผลไม้ทั้งหมด
นอกเหนือจากการส่งออกแล้ว ยังแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ
ส่วนใหญ่นิยมนำมาแปรรูปเป็นมะม่วงดอง
ที่มีการผลิตอย่างแพร่หลายในโรงงานผักผลไม้ดองทั้งขนาดเล็กและขนาดกลางในกรุงเทพมหานครและ
ต่างจังหวัด ด้วยพื้นความรู้ที่ถ่ายทอดกันมาไม่มีหลักเกณฑ์ทางวิชาการที่แน่นอน
ทำให้มีการปฏิบัติกันอย่าง
ไม่ถูกสุขลักษณะและมีการใช้สารเจือปนในปริมาณและชนิดที่ไม่เหมาะสม
เพียงเพื่อทำให้มะม่วงดองมีลักษณะ ที่ผู้บริโภคต้องการและมีอายุการเก็บนาน
โดยไม่ได้คำนึงถึงความเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค
เจ็บไข้ได้ป่วย..โรคร้าย..มะม่วงช่วยได้
โดยเอนไซม์ที่อยู่ในมะม่วงอย่าง
magneferin, katechol
oxidase และ lactase มีคุณสมบัติในการย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์
ล้างพิษในลำไส้ และสามารถต่อสู้กับเชื้อโรค ต้นเหตุของการเจ็บป่วย
กรดคาร์บอลิกเป็นอีกหนึ่งของสารอาหารที่ทำหน้าที่รักษาและสกัดกั้นเชื้อมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ
สาร Mangiferin จากใบอ่อนของมะม่วง
สามารถรักษาอาการอักเสบ ต้านแบคทีเรีย และป้องกันคราบแบคทีเรียในฟันได้
นอกจากนี้สาร Mangiferin ยังมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อไวรัส
ที่เกิดบนผิวหนัง โดยการนำมาประยุกต์ใช้ในรูปแบบของขี้ผึ้ง
  สรรพคุณทางยา ของมะม่วง ในทางแพทย์แผนไทย

 ผลสดแก่ รับประทานแก้คลื่นไส้อาเจียน วิงเวียน
กระหายน้ำ
 ผลสุก
หลังรับประทานแล้วล้างเมล็ดตากแห้ง ต้มเอาน้ำดื่ม หรือบด เป็นผง
รับประทานแก้ท้องอืดแน่น ขับพยาธิ
 ใบสด 15–30 กรัม ต้มเอาน้ำดื่ม
แก้ลำไส้อักเสบเรื้อรัง ท้องอืดแน่น เอาน้ำต้มล้างบาดแผลภายนอกได้
 เปลือกต้น ต้มเอาน้ำดื่ม
แก้ไข้ตัวร้อน
 เปลือกผลดิบ
คั่วรับประทานร่วมกับน้ำตาล แก้อาการปวดเมื่อย เมื่อมีประจำเดือน แก้ปวดประจำเดือน
 องค์กรระดับโลกยอมรับ “มะม่วง” ในฐานะอาหารที่มีสรรพคุณเป็นยา
จากคำแนะนำของ WHO หรือ
องค์การอนามัยโลก ระบุว่ามะม่วงสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคบิดและโรคหัดได้
เพราะในมะม่วงมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับแครอท โดยมีแครอทีนและวิตามินซีสูง
ซึ่งทำหน้าที่ในการดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหารและป้องกันภาวะการเกิดโลหิตจางในกลุ่มคนที่กินอาหารมังสวิรัติ
นอกจากนี้มะม่วงยังมีแคลเซียมสูงจึงสามารถรักษาอาการเลือดตกในได้
 อินเดีย ใช้ประโยชน์หลากหลายของ “มะม่วง”
ที่ประเทศอินเดียใช้มะม่วงเป็นตัวสร้างเม็ดเลือด
โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์และมีประจำเดือน
ด้วยการนำใบมะม่วงตากแห้งมาบดเป็นผง ผสมกับน้ำ 1 แก้ว ดื่มก่อนนอนทุกวัน มีคุณสมบัติรักษาก้อนนิ่วในไตได้
จะทำให้ก้อนเนื้อค่อยๆ ลดขนาดลง หากเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ
แก้ด้วยการต้มและสกัดเปลือกมะม่วง
ช่วยรักษาอาการติดเชื้อในเยื่อบุกระเพาะอาหารให้ทุเลาลง
ประโยชน์จากเม็ดมะม่วงตากแห้งกลายเป็นแปรงสีฟันอย่างดี
เมื่อนำมาแปรงแล้วจะทำให้เหงือกแข็งแรงและช่วยลดกลิ่นปากได้
         นอกจากเนื้ออร่อย..ส่วนอื่นก็มีประโยชน์
เปลือกมะม่วงยังมีสาร mangiferine
ที่ทำหน้าที่เป็นยาบำรุงผิว ห้ามเลือด แผลพุพอง โรคไขข้ออักเสบ โรคคอตีบ
และอาการท้องเสีย โดยการใช้ใบมะม่วงตากแห้งแล้วนำมาบดเป็นผง
ผสมกับน้ำครั้งละครี่งช้อนชา ดื่มวันละ 2-3 ครั้งจะลดอาการท้องเสียได้
เนื่องจากในมะม่วงมีวิตามินเอสูง ซึ่งวิตามินเอมีประโยชน์บำรุงสายตาช่วยในการมองเห็น
เด็กและสตรีมีครรภ์ควรกินมะม่วงเป็นประจำ
เพราะวิตามินเอมีส่วนช่วยในการบำรุงรกและทารกในครรภ์
อีกทั้งยังลดอัตราการแท้งลูกได้
แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าผลไม้พื้นบ้านที่มีปลูกกันทั่วไปและบริเวณบ้านแทบทุกครัวเรือนที่สามารถกินได้ทั้งผลสุกและผลดิบอย่างมะม่วงจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมหาศาล
ทั้งอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ โปรตีน ไขมัน แครอรี่ เกลือแร่
ซึ่งสารอาหารต่างๆเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง
คงขึ้นอยู่กับว่าเราจะนำคุณค่าจากส่วนใดมาใช้
และในฐานะคนไทยที่ผูกพันกับมะม่วงคงช่วยกันรักษาสายพันธุ์ที่มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ให้คงอยู่ไปชั่วลูกชั่วหลานได้ใช้คุณค่ามหาศาลจากมะม่วงด้วย

ชื่อมะม่วงหรือนี่

ช่วง นี้มีมะม่วงหลากหลายพันธุ์ให้เลือกทานได้ตามสะดวก ราคาย่อมเยา ทั้งอร่อยหวานมันและเปรี้ยวจี๊ด ... ทำให้นึกถึงกลอนที่เคยได้รับจากท่าน พระครูสุธรรมนาถ เจ้าอาวาส วัดปลักไม้ลาย ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน

 ท่านพระ ครูสุธรรมนาถ ครูภูมิปัญญาไทย รุ่นที่ 1 ด้านการแพทย์แผนไทย ซึ่งนอกจากจะมีความรู้ด้านสมุนไพรไทยอย่างดีแล้ว ท่านยังได้อนุรักษ์พืชพันธุ์ชนิดต่าง ๆ  ทั้งไม้หายาก ไม้ยืนต้น พืชสมุนไพร ท่านมีตำรายาโบราณ ชื่อพันธุ์ไม้โบราณ และชื่อมะม่วงโบราณ ซึ่งเมื่อครั้งได้รับกลอนนี้มานั้น คนไม่มีรากเกือบไม่เชื่อว่าเป็นชื่อมะม่วง ท่านเล่าว่าปัจจุบันมะม่วงโบราณบางชนิดได้สูญพันธุ์ไปแล้ว...


ชื่อมะม่วงนี้ผูกไว้เป็นกลอน ที่เป็น ตัวหนังสือสีม่วง เป็นชื่อมะม่วงค่ะ ไม่แน่ใจว่ามีการพิมพ์ผิดตกบ้างหรือเปล่า ... ลองดูนะคะ

Dsc03350

        ขอบคุณภาพมะม่วง จาก ครูมิม ค่ะ


พันธุ์มะม่วง


      จักกล่าวพันธุ์มะม่วง                ท่านทั้งปวงจงรู้ความ
มะม่วงเมืองสยาม                         จะนับนามอเนกนัก
จะจักที่จำได้                              พอคนไทยแจ้งประจักษ์
มีหลากโดยเลิศลักษณ์                  ประเภทพรรคอัมพาผล

      พิมเสน มีดาษดื่น                 เป็นภาคพื้นทุกตำบล
รู้จักแทบทุกคน                           ยังประดนพิมเสนมัน
หมอนทอง อกร่องรส                  หวานปรากฏรสสวรรค์
แมวเซามีสองพรรณ                    แมวเซาขาว แมวเซาดำ

      พรวนขอ อีกพรวนควาย        แก้ว แก้วกลายมีประจำ
ควันเทียนแลทองคำ                   มะลิอ่อง ทองปลายแขน
น้ำตาลปากกระบอก                   ขานนามออกทุกดินแดน
มะม่วงนายขุนแผน                       ปลูกเมื่อทับกลับคืนมา

      การเกด อีกไข่ไก่                 ทุกเรียนใหญ่สังขยา
ลิงโลดมะลิลา                            แก้วลืมรังหนักลางวัน
กระสวยรสสนิท                          อินทรชิตทศกรรฐ์
แขนอ่อนอีกนวลจันทร์                 น้ำตาลจีนเทพรำจวน

      ไข่เหี้ยไข่นกกระสา              กระล่อนป่า กระล่อนสวน
อีกสาวละห้อยหวน                      สาวสะกิดมารดาดู
มะม่วงเทพรำลึก                         แขกขายตึก อีกคราบหมู
กะละแม มีช่อชู                           หนึ่งชื่อว่าชาละวัน

      ม่วงพราหมณ์ขายเมียนี้         ดูท่วงทีรสขยัน
เมียรักดังชีวัน                              ยังสู้ขายจ่ายอัมพา
ม่วงสาวกระทืบหอ                       นี้ก็ส่อรสโอชา
สาวอยากจะโภชา                        จนโกรธากระทืบเรือน

      มะม่วงพิมเสนสวรรค์             ชื่อทั้งนั้นไม่มีเหมือน
ล่วงชั้นตะวันเดือน                        ถึงสวรรค์ชั้นวิมาน
มะม่วงชื่อรำพึง                           คนคะนึงด้วยรสหวาน
ม่วงเศียรคชสาร                         อีกม่วงบ้าน มะม่วงเนย

      กระแตลืมรัง เรียก                 โดยสำเหนียกตามเคย
ค้างคาวลืมลูก เลย                      หลงกินเพลินเนิ่นนานวัน
ทองขาว ทองดำ ดู                     ขึ้นเป็นคู่แข่งเคียงกัน
แก้วขาว แก้วดำ ปัน                    เป็นระยะคละกันไป

      สุวรรณหงส์เห็น                   แต่เขาเล่นละคอนไทย
เป็นม่วงเสียเมื่อไร                        อยากใคร่รู้ดูหงส์ทอง
โสนน้อยผะอบนาก                     เจ้าเงาะหลากเพื่อนทั้งผอง
กระบุ่ม กระเบาปอง                    เป็นเหมือนเงาะเยาะรจนา

      มะม่วงชื่อการเวก                  นามนกเอกในเวหา
หอยแครง แลแตงกวา                 หัวกิ้งก่า เหนียงนกกระทุง
คิ้วนาง ดูน่ากิน                           เทพสินเหมือนชื่อกรุง
แลเห็นเป็นหมู่มุง                         ม่วงสาวน้อยเยี่ยมห้องหวน

      หัวโตต้นต่ำเตี้ย                     ผัวตีเมีย ร้องไห้ครวญ
สาวน้อยสีน้ำนวล                       สาวรัญจวนสาวสวรรค์
มะม่วงผัวพรากเมีย                     คิดน่าเสียใจครันครัน
แก้วพราก แม่จากกัน                   รสสำคัญเห็นรุนแรง

      สาริกาลืมรังอยู่                    วัดวังคู่กับแก้มแดง
ม่วงกระกระแอมแฝง                     มะม่วงแฟบ แอบพุดไทย
สาวตบอุรา ร่ำ                            ด้วยระกำจะจำไกล
จากม่วงของชอบใจ                      ตบอุราน่าสงสาร

      มะตูม อีกตับเป็ด                  หวานมันเด็ดดุจน้ำตาล
อ้ายฮวบใหญ่ ใครไม่ปาน              สับสำปั้น น้ำตาลทราย
มะม่วงเขียวสะอาด                      กำเนิดชาติพิมเสนกลาย
มะม่วงกระจิบลาย                       อีกม่วงล่าหมาไม่แล

      ม่วงสาวกระทืบยอด              เดิมนางรอด บุตรตาแห
เดินไปไม่ทันแล                          เหยียบม่วงเล็กเด็กว่าขาน
ม่วงนั้นครั้นใหญ่มา                       ดกระย้าใครจะปาน
จึงตั้งนามขนาน                           กระทืบยอดรอดบาทา

      มะม่วงกำมะลอ                     สาเก ก่อเป็นสมญา
เทพรส รสโอชา                          อัมพาดื่นพ้นดินดอน
เหลือจะร่ำไห้สุด                          ชื่อสมมตินามกร
นักเรียนพึ่งแรกสอน                      อ่านกลอนเล่นเป็นสำราญ.


                        ของฝากจากพระครูสุธรรมนาถ 
       วัดปลักไม้ลาย จังหวัดนครปฐม


ทานมะม่วงกันให้อร่อยนะคะ.....
                            (^___^)

นมัสการขอบพระคุณท่านพระครูสุธรรมนาถ
ขอบคุณภาพประกอบจาก ครูมิม
ขอบคุณ คุณกวิน ที่ทำให้เขียนบันทึกนี้

Thursday, November 29, 2012

เคล็ดลับง่ายๆในการทำมะม่วงดอง-มะม่วงแช่อิ่ม



เงินลงทุน : ประมาณ 3,000 บาท
รายได้ : 500 บาท/10 กิโลกรัม
วัสดุอุปกรณ์
: โอ่งมังกรเบอร์ใหญ่  ถุงพลาสติก ไม้ไผ่ ขวดบรรจุมะม่วง มีด เขียง ตะแกรง  ภาชนะ เคลือบ

ส่วนผสมมะม่วงดอง :

- มะม่วงดิบ               120       ลูก
- ปูนแดง                       1     ถ้วยตวง
- เกลือ                       11        กิโลกรัม
- กรดมะนาว                  1       ขวด(แม่โขง)
- สีผสมอาหาร (สีเหลือง)        1     ช้อนโต๊ะ

mamoungdong01

วิธีทำ
:
1.  นำมะม่วงมาล้างน้ำให้สะอาดไม่ต้องปอกเปลือก แล้วผึ่งไว้
2.    นำโอ่งมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมะม่วงใส่ลงไปในโอ่ง เติมน้ำสะอาดลงไปให้เต็มใส่ปูนแดง กวนให้ละลายเข้ากันกับน้ำ ปิดฝาให้สนิททิ้งไว้ 1 คืน
3.    ตอนเช้านำมะม่วงที่ได้จากข้อ 2 มาล้างน้ำให้สะอาด  เทน้ำในโอ่งทิ้ง ทำความสะอาดโอ่ง  แล้วนำมะม่วงมาเรียงลงในโอ่ง เติมน้ำให้เต็ม แล้วใส่เกลือ กรด  มะนาว   สีผสมอาหารลงไปคนให้ละลายจนทั่ว ใช้ไม้ขัดให้มะม่วงจมน้ำปิดปากโอ่งด้วยถุงพลาสติกให้แน่นทิ้งไว้ 25 วัน ก็จะได้มะม่วงดอง

ส่วนผสมมะม่วงแช่อิ่ม :

- มะม่วงดอง           10         กิโลกรัม
- น้ำตาลทราย             3            กิโลกรัม
- น้ำ                         3            ลิตร

mamoungdong02

วิธีทำ
:
1.    นำมะม่วงดองออกมาล้างน้ำให้สะอาด ปอกเปลือก แล้วนำมาฝานเป็นชิ้น ๆ หรือตกแต่งให้เป็นรูปต่าง ๆ นำมาล้างน้ำให้สะอาดอีกครั้ง มะม่วง 10 กิโลกรัม ปอกเปลือกแล้วฝานจะเหลือน้ำหนักประมาณ 7 กิโลกรัม
2.    นำน้ำตาลทราย แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนละ 1.5 กิโลกรัม ส่วนแรกนำไปเคี่ยวกับน้ำ 2 ลิตร จนเป็นน้ำเชื่อมนาน 20 นาที  เสร็จแล้วเทใส่ภาชนะเคลือบหรือสเตนเลสทิ้งไว้ให้เย็น
3.    นำมะม่วงลงแช่ในน้ำเชื่อมให้ท่วม แช่ทิ้งไว้ 1 คืน วันรุ่งขึ้นตักมะม่วงขึ้นมาใส่ตะแกรงผึ่งให้แห้ง นำน้ำเชื่อมที่เหลืออยู่ไปต้มให้เดือดเพิ่มน้ำตาลส่วนที่ 2 อีก 1.5 กิโลกรัม ไม่ต้องใส่น้ำเพิ่มเคี่ยวจนน้ำเชื่อมเหนียวทิ้งไว้ให้เย็นเทใส่หม้อเคลือบใบ เติม แล้วนำมะม่วงลงไปแช่อีกครั้ง ทิ้งไว้ 1 คืน แล้วจึงนำมาบรรจุใส่โหลพร้อมน้ำเชื่อม ปิดฝาให้สนิท ส่งจำหน่ายลูกค้า

ตลาด/แหล่งจำหน่าย : ตลาดในท้องถิ่น มินิมาร์ท ห้างสรรพสินค้า

ข้อแนะนำ :

1.    มะม่วงที่นำมาทำมะม่วงดอง ควรเลือกมะม่วงแก้ว มะม่วงพันธุ์โชคอนันต์        หนังกลางวัน เพราะเนื้อจะแน่น
2.   น้ำที่นำมาดองห้ามใช้น้ำฝนเด็ดขาดเพราะมีความเป็นกรมจะทำให้มะม่วงเน่า
3.   เคล็ดลับความอร่อยของมะม่วงแช่อิ่มอยู่ที่ความสะอาด ในทุกขั้นตอน โดยเฉพาะการดองต้องล้างน้ำมากกว่า 5 ครั้ง หรือจนกว่าจะไม่มีกลิ่น และการทำน้ำเชื่อม  ต้องกรองให้สะอาด
4.    น้ำที่เหลือจากการดองมะม่วงอย่าเททิ้งลงในแหล่งน้ำธรรมชาติเพราะจะทำให้น้ำเน่าเสีย

Tuesday, November 20, 2012

การผสมเกสรมะม่วงโดยใช้แมลงวันและแมลงวันทอง

การผสมเกสรมะม่วงโดยใช้แมลงวันและแมลงวันทอง-3398_0.jpg


ต้นไม้บางต้นติดดอกเต็มต้น แต่ไม่ติดผลบางครั้งจะมีติดผลบ้างแต่น้อยเหลืิอเกินเมื่อเทียบกับดอกที่ออก มาให้เราเห็น ดูแล้วไม่สมดุลกัน บางครั้งก็เห็นติดลูกได้เยอะเหมือนกับระยะแรก แต่พอระยะหนึ่ง ก็จะร่วงจนหมด โดยเฉพาะไม้ผลอย่างมะม่วง บางทีลูกติดได้เท่ากำปั้นเด็ก 2 ขวบแล้วก็ยังร่วงหล่นอยู่อีก ปัญหานี้เกิดแล้วก็ได้แต่เดาเอาว่าเป็นโรค หรือเกิดจากแมลงเข้าทำลาย หรือขาดน้ำขาดอาหาร หรือเดาเอาอีกว่าขาดแร่ธาตุบางตัว แต่สิ่งเหล่านี้ก็มีส่วนที่ทำให้เป็นสาเหตุให้เกิดอาการดังกล่าวเหล่านั้น ได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่ที่ คุณบุญช่วย วงษ์ษา เจ้าของสวนกลางนาพบเกิดจากการที่ดอกไม่ได้รับการผสมเกสรนั่นเอง
การผสมเกสรมะม่วงโดยใช้แมลงวันและแมลงวันทอง-mango-ub1.jpg
จาก การสังเกตและทดลองของตนเอง เมื่อนำผลที่ร่วงมาผ่าดูพบว่ามะม่วงไม่มีเมล็ด บางลูกมีเมล็ดแต่เป็นเมล็ดลีบ จากความรู้ที่ได้ศึกษาและรับการถ่ายทอดมาว่าถ้าพบเมล็ดในผลมะม่วงไม่มี หรือถ้ามีแล้วเมล็ดลีบ ให้ตั้งข้อสังเกตได้เลยว่า ช่วงมะม่วงออกดอกแล้วแต่ไม่ได้รับการผสมเกสร จึงพยายามคิดวิธีที่จะทำให้ดอกได้ผสมเกสรกันมากกว่านี้ เพราะช่วงเริ่มแรกของการทำสวนกลางนาตรงนี้แมลงอย่าง ชันณรง ผึ้ง ต่อ แตน แมลงภู่ยังมีไม่เยอะ จึงทำให้เกิดปัญญานี้ขึ้น จากแนวคิดและประสบการณ์ตรง ที่เกิดจากการสังเกตเห็นต้นไม้ที่นกหนูตายติดค้างอยู่บนต้นไม้ และเป็นช่วงที่มะม่วงกำลังออกดอกอยู่พอดี และต้นที่มีซากสัตว์ติดอยู่ดังกล่าว ผลผลิตติดลูกดก เมื่อเทียบกับต้นอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณแปลงเดียวกัน ดูแล้วสามารถแยกแยะเกิดข้อแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด จากการสังเกตเจาะลึกเพิ่มขึ้นหลายครั้ง จะพบว่าแม้ในต้นเดียวกัน การติดลูกก็ยังแตกต่างกัน เปรียบเทียบได้โดยเฉพาะกิ่งที่มีซากสัตว์ติดอยู่ และกิ่งที่อยู่ใกล้ๆกัน จะติดผลดกเป็นพิเศษ จากการเฝ้าสังเกตช่วงดอกเริ่มแห้ง จะพบเปอร์เซ็นลูกเล็กติดมากกว่าช่อดอกกิ่งตรงข้าม เหตุการเช่นนี้เกิดขึ้นพบบ่อยอยู่เกือบตลอดเวลาทำให้ต้องค้นหาคำตอบให้ได้ และคำตอบของโจทย์นี้ก็คือ แมลงวันช่วยผสมเกสรให้ในช่วงนั้นพอดี เพราะซากสัตว์นี้เองที่ทำให้มีแมลงวัน มาช่วงนั้นเยอะ ดังนั้นการทดลองปฏิบัติอย่างจริงจังต่อเนื่องจึงเกิดขึ้น

เทคนิคการเรียกแมลงวันมาผสมเกสรให้กับมะม่วงช่วงออกดอก คือ เมื่อเห็นมะม่วงเริ่มออกดอกให้เฝ้าสังเกตว่าดอกมะม่วงบานแล้วหรือยัง ถ้าพบว่าดอกกำลังบานให้นำซากสัตว์อย่าง ไส้ปลา หัวปลาที่หาได้ง่ายนำมาใส่กะลา แล้วแขวนไว้ให้รอบต้นมะม่วงหรือในทรงพุ่มของต้นก็ได้ถ้าเอาไปแขวนใกล้ๆ ดอกจะยิ่งดีมาก หรือ ถ้าไม่อยากใช้กลิ่นซากสัตว์ก็ ให้นำผลไม้สุกมาใช้แทนซากสัตวก็ได้วิธีนี้จะทำให้มีแมลงวันอีกชนิดหนึ่งมา ช่วยผสมเกสรได้ คือ แมลงวันทองแต่ต้องระวัง หลังจากพบว่าดอกเริ่มแห้ง ให้รีบนำผลไม้หรือซากสัตว์ที่ใช้ล่อนั้นไปต้มในน้ำเดือด 10 นาที หรือฝังทำลาย การฝังต้องต้องขุดให้ลึกไม่น้อยกว่าหนึ่งไม้บรรทัดลงลงไปในดิน ไม่เช่นนั้นไข่แมลงวันทองจะฟักตัวได้แล้วจะกลับมาทำลายผลไม้ในสวนเราอีก และประโยชน์อีกอย่างของการใช้วิธีนี้คือการได้ควบคุมจำนวนของแมลงวันทองอีก ทางหนึ่งด้วย

ที่มา :
ศูนย์ทางด่วนข้อมูลการเกษตร *1677
สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน จ.สระบุรี
แหล่งอ้างอิง :
บุญช่วย วงษ์ษา หมู่ที่11 ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี

ข้าวเหนียวมะม่วง...

ข้าวเหนียวมะม่วง...
อาทิตย์ที่แล้วแวะไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตของคนไทย...เจอมะม่วงแชมเปญ เลยซื้อกลับมา หวานอร่อยถูกใจดี

มะม่วงที่เมกาไม่อร่อยเหมือนมะม่วงบ้านเรา ลูกใหญ่จริง แต่รสชาติออกหวานอมเปรี้ยว คิดถึง มะม่วงน้ำดอกไม้ กับ มะม่วงอกร่องจัง



หุงข้าวเหนียวด้วยหม้อหุงข้าวอีกล่ะ แต่คราวนี้ไม่ได้ผสมกะทิลงไป รอให้ข้าวเหนียวสุก แล้วค่อยผสมข้าวเหนียวลงในกะทิที่ต้มไว้...

ทำแล้ว เอาไปแบ่งให้เพื่อนกินที่โรงเรียน...



ข้าวเหนียวสังขยา...


แปะสูตรสังขยา...เอาใจเจ๊หลีค่ะ ^^

- กะทิ 1 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊ป 1 ถ้วย
- ไข่ 4 ลูก
ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน แล้วนำไปนึ่งด้วยไฟแรงครึ่งชม.







ส่วนผสมที่ใช้ทำข้าวเหนียวสังขยาทั้งหมด...



ทำข้าวเหนียวมูลด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้าค่ะ...

พันธุ์มะม่วงที่นิยมปลูก

มะม่วง นั้น ถือเป็นไม้ผลยอดนิยมชนิดหนึ่ง ซึ่งคนไทยเรานิยมปลูกเอาไว้ในรั้วบ้านน่ะนะคะ ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งซึ่งทำให้คนไทยเรานิยมปลูกมะม่วงไว้รับประทานภายในบ้าน นั้น นอกจากจะเป็นเพราะมะม่วงเป็นไม้ผลที่มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อม ปลูกง่าย ดูแลรักษาไม่ยุ่งยากแล้ว ยังมีพันธุ์ให้เลือกปลูกมากมายหลายพันธุ์ แถมยังมีทรงพุ่มที่ร่มรื่น ให้ร่มเงาแก่บ้านได้เป็นอย่างดี

ประโยชน์ของมะม่วงนั้นมีมากมายหลายประการค่ะ เราสามารถนำผลของมะม่วงมาทำอาหารได้หลายหลากชนิดทั้งหวานคาว และยังสามารถใช้ประโยชน์จากเนื้อไม้ของลำต้นได้อีกด้วย


พันธุ์มะม่วงที่นิยมปลูก
ในบ้านเรานั้น สามารถแบ่งออกตามลักษณะของผลที่เก็บเกี่ยวได้ 3 ประเภทด้วยกันคือ

มะม่วงแบบรับประทานดิบ


มะม่วงประเภทนี้แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดด้วยกันค่ะ คือประเภทที่สามารถเก็บผลได้ตั้งแต่ระยะที่ผลเข้าไคล และจะมีรสหวานมันเมื่อแก่จัด ได้แก่ มะ่ม่วงพันธุ์เขียวเสวย มะม่วงแรด มะม่วงพิมเสนมัน มะม่วงทองดำ มะม่วงเขียวไข่กา มะม่วงแก้วลืมคอน มะม่วงลิ้นงูเห่า



มะม่วงเขียวเสวย

ส่วนอีกชนิดหนึ่งก็คือ ม่วงประเภทที่มีรสมันตั้งแต่ผลยังเล็ก ๆ ได้แก่ มะม่วงฟ้าลั่น มะม่วงหนองแซง มะม่วงแห้ว มะม่วงสายฝน ซึ่งมะม่วงพันธุ์ที่กล่างมานี้ หากปล่อยไว้ให้สุกจะให้รสหวานไม่มาก จึงไม่ควรเก็บเอาไว้จนสุกน่ะนะคะ

มะม่วงรับประทานสุก


มะม่วงประเภทนี้เป็นมะม่วงที่ต้องเก็บเมื่อแก่จัดแล้วจึงบ่มให้สุกเพื่อให้ มีรสหวานอร่อยค่ะ หากเก็บตอนยังดิบอยู่รสชาดจะออกเปรี้ยวค่อนข้างมาก เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงอกร่อง เป็นต้น


มะม่วงน้ำดอกไม้

มะม่วงใช้แปรรูป


มะม่วงประเภทนี้คือมะม่วงที่ให้ผลดกค่ะ จึงนิยมนำมาแปรรูปเพื่อเก็บรักษาเป็นของรับประทานในรูปแบบอื่น ตัวอย่างของมะม่วงประเภทนี้ก็คือ มะม่วงแก้ว ซึ่งสามารถนำมาทำ มะม่วงดอง มะม่วงกวน มะม่วงแผ่น ได้น่ะนะคะ

มะม่วงแก้ว

ในตอนหน้าของบล้อกสวนแสนรัก เราจะมารดูวิธีปลูกต้นมะม่วงในรั้วบ้านของเรากันค่ะ

แล้วกลับมาพบกับสวนแสนรักได้ใหม่ในครั้งหน้านะคะ


เรียบเรียงข้อมูลจาก หนังสือไม้ผลในรั้วบ้าน
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

มะม่วงถนอมสายตา

มะม่วง


มะม่วงถนอมสายตา (Mix)

          ใครชอบกินมะม่วงบ้าง ยินดีด้วยนะครับ เพราะจักษุแพทย์ของศูนย์แพทย์โรคตาในสหรัฐฯ ได้ออกมาระบุว่า มะม่วงเป็นผลไม้ยอดคุณที่ช่วยบำรุงรักษาสายตาได้อย่างดี

          เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะในมะม่วงนั้นอุดมไปด้วยสิตามินซี อี  และเบตาแคโรทีน ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระทั้งสิ้น ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้สายตาเสื่อมลง โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ

          ส่วนใครที่ไม่ชอบกินมะม่วง ก็อาจจะเลือกกินผลกีวีแทนก็ได้ครับ เพราะลูกกีวีมีโปแตสเซียมสูง รวมทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงจากการสูญเสียสายตาของผู้สูงอายุที่มีความดันโลหิตสูงด้วยได้